สพฐ.เตรียมทบทวนการใช้ O-Net จบช่วงชั้น
17 ก.พ. 2558 09:37 น.
ผู้อ่าน
|
|
![]() |
สพฐ.เตรียมทบทวนการใช้ O-Net จบช่วงชั้น เหตุเด็กยื่นฟ้องศาลปกครอง “กมล” เผยเข้าใจปัญหาและข้อกังวลของเด็ก เล็งค่อยๆขยับเพิ่ม10% เป็น 40% จากเดิมที่ประกาศ ศธ.กำหนดให้ขยับกระโดดเป็น 50%ในปีการศึกษา 58 แจงอาจต้องปรับประกาศ ศธ.เรื่องใช้O-Netจบช่วงชั้นใหม่ แต่การยกเลิกไม่สามารถทำได้
วันนี้ (16 ก.พ.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มนักเรียนเครือข่ายยุวทัศน์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง กรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ออกประกาศเรื่องการปรับสัดส่วนการใช้ผลแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้น พื้นฐาน หรือ O-Net เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนที่จบหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 เนื่องจากข้อสอบไม่มีความเป็นกลาง สร้างความเหลื่อมล้ำ และสร้างความหนักใจให้แก่ผู้เรียน ว่า ตนเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี และเตรียมที่หารือกับสำนักติดตามและประเมินผลทางการศึกษา ของสำนัก งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อทบทวนประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการปรับสัดส่วนการใช้ผล O-Netอีกครั้ง ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยใช้อำนาจ รมว.ศึกษาธิการ ส่วนเรื่องข้อสอบที่ไม่มีความเป็นกลางนั้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ที่จะไปดำเนินการเรื่องการออกข้อสอบให้มีความเป็นกลางมากขึ้น
ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2557 จะเป็นปีแรกที่โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องนำคะแนนO-Net มาใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียนของนักเรียนในระดับชั้นประถม ศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในสัดส่วน 30% ร่วมกับคะแนนผลการเรียนสะสมตลอดหลักสูตร หรือ จีแพกซ์ ในสัดส่วน 70% หรือสัดส่วน 70:30 ตามที่กำหนดไว้ในประกาศศธ. และในปีการศึกษา 2558 จะใช้คะแนนO-Net 50% ซึ่งในเรื่องนี้เด็กก็เกิดข้อขัดแย้ง และเห็นว่าเป็นการเพิ่มสัดส่วนที่มากเกินไป และอาจส่งผลให้เป็นภาระแก่ผู้เรียนได้ โดย สพฐ.เข้าใจถึงปัญหานี้ และพร้อมจะกลับไปพิจารณาใหม่ เพราะตามหลักการแล้วควรจะขยับคะแนนO-Netจาก 30% เป็น 40% ไล่ไปเรื่อยๆมากกว่าการก้าวกระโดดจาก 30% เป็น 50% ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะ
“หากจะให้ยกเลิกประกาศการใช้คะแนนสอบO-Netในการตัดสินจบช่วงชั้นนั้น คงไม่สามารถทำได้ แต่หากมองตามหลักวิชาการแล้วเรื่องนี้สามารถพูดคุยทำความเข้าใจและปรับแก้ไข กันได้ เพราะการสอบO-Netจะทำให้เรารู้มาตรฐานภาพรวมของประเทศว่าโรงเรียนแต่ละโรง มีผลสัมฤทธิ์สูงหรือต่ำ เพื่อที่สพฐ.จะได้ปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนต่อไปได้”นายกมล กล่าว
ที่มา : ผู้จัดการ