ไทย​ English   การแสดงผล
C
C
C

ข้อมูลข่าวสาร

สพฐ.เล็งเปลี่ยนแนวการสอนอังกฤษยึดยุโรป

10 มี.ค. 2557 14:25 น.

ผู้อ่าน

ภาพ สพฐ.เล็งเปลี่ยนแนวการสอนอังกฤษยึดยุโรป
 
โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นส์ กรุงเทพฯ นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการรมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมระดมความคิดเห็นเรื่องแนวปฏิบัติตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่องนโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ว่าศธ.ได้จัดประชุมเสวนาเพื่อการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนภาษาอังกฤษร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องมาหลายครั้งแล้ว จนมีข้อสรุปออกมา และได้จัดทำเป็นประกาศนโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของศธ.ที่ได้ลงนามไปแล้ว โดยการประชุมครั้งนี้เพื่อรับฟังความเห็นประกอบการทำแนวปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ที่จะนำออกไปใช้กับโรงเรียนทั่วประเทศ
 
โดยนโยบายปฏิรูปการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และแนวปฏิบัติที่จะกำหนดออกมาจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนภาษาอังกฤษครั้งใหญ่ ซึ่งจะใช้กรอบการเรียนภาษาของประเทศในยุโรปแต่สาระที่สำคัญจะให้มีการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามกระบวนการเรียนภาษาตามธรรมชาติของมนุษย์ คือ เรียนจากการใช้ภาษาและเรียนเพื่อใช้ภาษาเรียงลำดับจากการฟัง พูด อ่าน เขียนและเน้นการใช้ ทั้งนี้แนวปฏิบัติแบบนี้จะต้องนำไปสู่การปรับหลักสูตรการเรียนการสอน สื่อการเรียน หนังสือ และการวัดผลประเมินผลต้องเน้นการเรียนการสอนเพื่อการสื่อสาร
 
"การระดมความเห็นในวันนี้อยากให้เกิดผลทางปฏิบัติเป็นขั้นเริ่มต้นบางส่วนในโรงเรียนต่างๆ ตั้งแต่ต้นปีการศึกษา2557นี้ ถือเป็นโจทย์ที่ยากว่าจะเตรียมการอย่างไรให้ทันเปิดภาคเรียนใหม่นี้เพราะเหลือเวลาไม่กี่เดือน โดยการเรียนการสอนต้องเพิ่มความเข้มข้น ให้โรงเรียนมีวิชาสนทนามากขึ้นรวมทั้งสามารถทำให้โรงเรียนที่มีความพร้อมและเด็กสนใจการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเวลาชั่วโมงเรียนวิชานี้ได้ด้วย ซึ่งจริงๆแล้วหลายโรงเรียนก็ได้ดำเนินการแล้ว เช่น เพิ่มชั่วโมงเรียนจากสัปดาห์ละ 4 คาบเป็น 6 คาบ การจัดค่ายฤดูร้อน " ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าว
 
ถึงแม้การเรียนการสอนภาษาอังกฤษแต่ละโรงเรียนจะมีความแตกต่างกันไป แต่ก็ต้องการให้ได้มาตรฐานและคุณภาพที่ดีขึ้นไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตามขอฝากไปยังโรงเรียนว่าการจะให้นักเรียนสามารถเรียนสนทนาภาษาอังกฤษได้ทางโรงเรียนจะต้องไปดูว่าจะจัดห้องเรียนให้เหมาะสมอย่างไร รวมถึงการเพิ่มชั่วโมงการเรียนวิชานี้ด้วย โดยผู้อำนวยการโรงเรียนและครูต้องช่วยกันวางแผนในเรื่องนี้เพื่อให้บรรลุผล
 
 
 
เครดิต นสพ.กรุงเทพธุรกิจ