ไทย​ English   การแสดงผล
C
C
C

ข้อมูลข่าวสาร

วันสุดท้าย O-Net ไม่มีรายงานทุจริต "สัมพันธ์" ไม่เชื่อกระทู้แฉ! บอกข้อสอบป.6

2 ก.พ. 2558 11:42 น.

ผู้อ่าน

ภาพ วันสุดท้าย O-Net ไม่มีรายงานทุจริต สัมพันธ์ ไม่เชื่อกระทู้แฉ! บอกข้อสอบป.6

สอบ O-Net ม.3 วันสุดท้ายเรียบร้อย “สัมพันธ์” ย้ำภาพรวมจัดสอบ ป.6-ม.3ไม่พบรายงานทุจริต ยันไม่ปักใจกรณีมีกระทู้แฉ! สอบO-Net ป.6 มีผู้บริหารขอผู้สังเกตการณ์บอกข้อสอบเด็ก ขอตรวจสอบก่อน ชี้หากพบหลักฐานมีผู้กระทำผิดในการสอบไม่ว่าเรื่องใด เอาผิดแน่ตามระเบียบ สทศ.ที่ออกไว้ ส่วนการส่งผู้สังเกตการณ์เป็นความร่วมมือกับ ม.ราชภัฏ เพื่อเป็นมาตรการเสริมป้องกันการทุจริต ทำต่อเนื่องมานาน 3 ปีและที่ผ่านมาไม่เคยมีรายงานเรื่องการบอกข้อสอบ
       
       วันนี้ (1 ก.พ.) รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้ อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) กล่าวว่า ตามที่ สทศ.จัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-Net) ประจำปีการศึกษา 2557 ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 สอบวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา ประกาศผลวันที่ 15 มีนาคม และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 สอบวันที่ 31 มกราคมและวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ประกาศผลวันที่ 16 มีนาคม ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสอบ O-Net ในระดับม.3 สอบทั้งหมด 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ วิทยาศาสตร์, สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม, สุขศึกษาและพลศึกษา, ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี สำหรับภาพรวมในการจัดสอบ O-Net ป.6 และ ม.3 ทั้งสองวันเป็นไปอย่างเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทุจริตแต่อย่างใด และที่ผ่านมา สทศ.ได้กำหนดมาตรการป้องกันการทุจริต รวมทั้งเฝ้าระวังและเข้มงวดกับการกระทำหรือพฤติกรรมอันส่อไปในทางทุจริตมา อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีนี้ได้ออกระเบียบ สทศ.ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการทดสอบ พ.ศ.2557 กำหนดโทษของนักเรียนผู้เข้าสอบและกรรมการคุมสอบ กรรมการประจำศูนย์สอบ เพื่อป้องกันการทุจริต การสอบทุกประเภทที่จัดโดยสทศ. ตรงนี้สะท้อนว่าเราให้ความสำคัญต่อการป้องปรามการทุจริต
       
       รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ ดชื่อดังระบุว่าผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งบอกกับผู้สังเกตการณ์การสอบ O-Net ของ สทศ.ในการสอบ O-Net ระดับป.6 โดยอ้างคำพูดว่า “ผอ.ขอได้ไหมเด็กมันไม่ได้จริงๆ ผู้ใหญ่เค้าขอมา..." ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการบอกข้อสอบ อีกทั้งยังระบุด้วยว่าเมื่อสอบถามเด็กๆยอมรับว่าบอกทุกวิชาอย่างละนิดละ หน่อย ว่า ขณะนี้ทราบว่ามีการตั้งกระทู้ดังกล่าวขึ้น และอยู่ระหว่างการตรวจสอบแต่ไม่ได้หมายถึงเป็นการตรวจสอบเฉพาะที่มีการโพสต์ แต่เป็นการตรวจสอบรายงานตามปกติที่ทาง ศูนย์สอบจะต้องรายงานมายัง สทศ. ในส่วนของผู้สังเกตการณ์นั้น เนื่องจากการสอบ O-Net ป.6 และม.3 มีเด็กจำนวนมาก สทศ.จึงขอความร่วมมือมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) รับทำหน้าที่สังเกตการณ์สอบทั่วประเทศ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยราชภัฏในแต่ละจังหวัดก็จะจัดส่งอาจารย์ นักศึกษาปริญญาโท และนักศึกษาปริญญาเอก ไปประจำในแต่ละโรงเรียน ยกเว้นจังหวัดใดที่ไม่มีมหาวิทยาลัยราชภัฏตั้งอยู่ เช่น จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครพนม ก็ประสานมหาวิทยารัฐในพื้นที่เป็นผู้ทำหน้าที่สังเกตการณ์ ซึ่งตรงนี้เป็นมาตรการเสริมเพื่อป้องปรามการทุจริตและดำเนินการมาต่อเนื่อง ถึง 3 ปีแล้ว ซึ่งนับแต่ที่เคยใช้มาตรการเสริมให้มีผู้สังเกตการณ์การสอบก็ไม่เคยได้รับ รายงานปัญหาในลักษณะนี้
       
       “ยังไม่ได้ปักใจเชื่อแต่ก็ไม่ได้นิ่ง นอนใจ ซึ่งผมยืนยันว่า สทศ.ให้ความสำคัญต่อการป้องกันการทุจริต ที่ผ่านมาเมื่อมีการจัดสอบก็มักมีการร้องเรียนต่างๆ แต่เมื่อลงไปตรวจสอบก็จะพบว่าไม่มีพฤติกรรมหรือเหตุการณ์แบบที่มีการร้อง เรียน เพราะฉะนั้นต้องรอรายงานข้อมูลเสียก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร ผมไม่อยากจะพูดอะไรไปก่อนเพราะจะกระทบกับครู กับผู้บริหารโรงเรียนที่เขาตั้งใจทำดีก็จะหมดกำลังใจ แต่หากมีการกระทำผิดและมีหลักฐานชี้ชัดเจนว่าผิดจริงตรงนี้ก็ต้องเอาผิดแน่ เพราะตอนนี้ สทศ.มีระเบียบออกมาชัดเจนแล้ว เช่น หากกรรมการคุมสอบทำผิด มีหลักฐานชี้ชัด ก็ต้องถูกดำเนินการตามวินัย เพราะผิดจรรยาบรรณ และหากเป็นการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อ สทศ.ด้วยแล้ว สทศ. ก็จะฟ้องร้อง เป็นต้น”รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระทู้ดังกล่าวถูกตั้งขึ้นโดยผู้ใช้ชื่อว่า “ครูพี่เหยิน” ชื่อกระทู้ว่า เมื่อแฟนผมเป็นผู้สังเกตการณ์การสอบO-Net ป.6 "ผอ.ขอได้ไหมเด็กมันไม่ได้จริงๆ ผู้ใหญ่เค้าขอมา..." ระบุว่า แฟนซึ่งลงชื่อเป็นผู้สังเกตการณ์สอบ O-Net ป.6 ของ สทศ.ให้นักศึกษาเป็นผู้สังเกตการณ์ คุมการสอบ ซึ่งในช่วงเช้ารอบแรกที่ผู้อำนวยการเรียกพบชี้แจงตามปกติ และได้เรียกพบรอบสองซึ่งจะมีการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ซึ่งครั้งนี้มีรองผอ.อีกสองสามคนนั่งด้วย โดยเนื้อหาในกระทู้อ้างถึงคำพูดว่า “ผอ.ขอได้ไหมเด็กมันไม่ได้จริงๆ ผู้ใหญ่เค้าขอมา..." อย่างไรก็ตาม เจ้าของกระทู้ระบุว่า แฟนซึ่งเป็นผู้หญิงรู้สึกกดดันเลยยอมและก็พบว่ามีการบอกข้อสอบจริง ทั้งระบุว่าสังเกตได้ว่ามีเด็กบางคนมีปัญหาอ่านหนังสือไม่ออก ขณะเดียวกันหลังสอบเสร็จช่วงเช้าผู้ที่ไปสังเกตการณ์มีการไปสอบถามกับตัว เด็ก ซึ่งเด็กยอมรับว่าครูบอก 2-3 ข้อ แต่ภายหลังการสอบเสร็จสิ้นไปถามอีกครั้งสรุปว่ามีการบอกทุกวิชาอย่างละนิดละ หน่อย โดยผู้ตั้งกระทู้ระบุว่าแฟนซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ได้มีการเขียนบันทึก รายงานไปตามจริง

 

ที่มา : ผู้จัดการ