ไทย​ English   การแสดงผล
C
C
C

ข้อมูลข่าวสาร

ศธ. รุกเพิ่มยอด รร.คุณธรรม

8 ม.ค. 2559 11:25 น.

ผู้อ่าน

ภาพ ศธ. รุกเพิ่มยอด รร.คุณธรรม

วันนี้( 7 ม.ค.) ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาศึกษาปทุมธานี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวในการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเชิงลึก แก่ผู้ตรวจราชการ เขตพื้นที่การศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนที่เข้าร่วมโครงการพัฒนา โรงเรียนคุณธรรมตามนโยบายปฏิรูปการศึกษา ประมาณ 1,200 คน ว่า โครงการนี้มีเป้าหมายสร้างคนดีให้บ้านเมือง ตามพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีชื่อเต็มว่าโรงเรียนคุณธรรมจริยธรรม ตั้งเป้าหมายว่าอีก 2 ปีข้างหน้า สถานศึกษาจะเข้าร่วมครบทุกแห่ง โดยขณะนี้ มีสถาบันอาชีวศึกษาเข้าร่วมโครงการแล้ว 500 แห่ง โรงเรียนเอกชน 250 โรงเรียน โรงเรียนสังกัดสพฐ. 367 โรงเรียน จะขยายเพิ่มเป็น 3,000 โรงเรียน ในปีการศึกษา 2559 และเพิ่มเป็น 30,000 โรงเรียนครอบคลุมทั่วประเทศในปีถัดไป

"สิ่งที่ศธ.อยากเห็นไม่ใช่แค่การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ต้องการสร้างคนดีให้บ้านเมือง ซึ่งผมเองมีนโยบายว่า จะใช้เรื่องดังกล่าวเป็นตัวบ่งชี้หนึ่งในการประกันคุณภาพสถานศึกษาภายใน โดยต่อไปหากสถานศึกษาใดดำเนินการตามแนวทางของโครงการฯจะถือว่า ผ่านมาตรฐานในการสร้างคนดีที่ได้คุณภาพ แต่ก็จะต้องดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้ เชื่อว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะมีโรงเรียนคุณธรรมครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ต่ำกว่า 30,000 โรง แน่นอน" รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี และประธานมูลนิธิยุวสถิรคุณ กล่าวบรรยายพิเศษ "หลักคิดและข้อแนะนำในการพัฒนาโรงเรียนคุณธรรม" ตอนหนึ่งว่า ครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการสร้างโรงเรียนคุณธรรมในระยะที่ 3 โดยนำโมเดล การนำหลักพุทธธรรมในการแก้ปัญหาการจัดการศึกษาของโรงเรียนบางมูลนากภูมิ วิทยาคม จ.พิจิตร ซึ่งในช่วงนั้นนักเรียนมีผลการเรียนต่ำ เกิดปัญหายาเสพติด ส่วนนักเรียนหญิงก็มีปัญหาท้องในวัยเรียนมาดำเนินการแก้ไข จนกระทั่งประสบความสำเร็จ และนำมาใช้เป็นโมเดลในการแก้ปัญหาในโรงเรียนอื่นๆ รวม 19 แห่ง ต่อมาปี 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ตั้งกองทุนการศึกษา มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างคนดีให้บ้านเมือง ซึ่งมีมิติมากกว่าคุณธรรม คือ ต้องมีคุณภาพด้วย นำสู่การดำเนินการในระยะที่สอง จัดตั้งเป็นมูลนิธิยุวสถิรคุณ ขยายการดำเนินงานเพิ่มไปอีกกว่า 100 แห่งทั้งโรงเรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสถาบันอาชีวศึกษา และครั้งนี้ถือเป็นระยะที่ 3 ที่ศธ.รับแนวพระราชดำริไปขยายต่อยังสถานศึกษาทั่วประเทศ โดยใช้โมเดลโรงเรียนคุณธรรมที่มีรูปแบบคุณธรรมแบบเป็นสากล สามารถประยุกต์ใช้ได้ในทุกศาสนา ง่าย ลงทุนต่ำ และเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนได้แน่นอน

"โรงเรียนคุณภาพ จะเน้นสอนในเรื่องวิชาการ ส่วนโรงเรียนคุณธรรมจะมาช่วยเสริม ผมอยากเห็นประเทศเต็มไปด้วยคนดี ซึ่งเครื่องมือในการบริหารงานที่สำคัญ คือ ธรรมาภิบาล โดยอยากให้ศธ.ออกแบบระบบบริหารและระบบงาน ที่คำนึงถึง ความโปร่งใส ระบบตรวจสอบ การจัดการความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน หากทำเช่นนี้ได้จะมีประโยชน์อย่างมากต่อประเทศชาติ" นพ.เกษมกล่าว

 

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/education/371647