'จาตุรนต์'วอนรับตรงช่วงปิดเทอมใหญ่

           19 ก.ย. 56  นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในงานเสวนาเรื่อง ก้าวต่อไปหรือทางตันของระบบแอดมิสชั่นส์และสอบรับตรงเข้ามหาวิทยาลัย ที่โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จ.เชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาในปัจจุบันมีผลกระทบต่อระบบการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียน โดยเฉพาะระบบการสอบรับตรงที่มหาวิทยาลัยจะเปิดสอบตลอดปี ทำให้เด็กทิ้งการเรียนในห้องเรียนหันไปกวดวิชาแทน และยังเป็นระบบที่สร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม เด็กที่มีฐานะยากจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ไม่มีเงินไปวิ่งสอบเหมือนกับเด็กที่มีฐานะ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในปัจจุบันจึงเป็นเรื่องของคนมีฐานะ มีเงินก่อนถึงมีสิทธิ์สอบรับตรงได้ แต่คนจนไม่มีสิทธิ์ ฉะนั้นตนจึงอยากให้มีการทบทวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษา โดยเฉพาะระบบการสอบรับตรงอีกครั้ง

 

            "ถ้ายังยกเลิกการสอบรับตรงไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอให้มหาวิทยาลัยเลื่อนการสอบรับตรงไปเป็นในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน โดยเฉพาะในปีนี้จะมีการเลื่อนเปิดเทอมตามปฏิทินอาเซียน  จึงทำให้ช่วงปิดเทอมใหญ่มีระยะเวลายาวนาน ซึ่งจะทำให้จัดสอบได้อย่างสะดวก ผมไม่อยากให้มหาวิทยาลัยจัดสอบรับตรงช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อนสอบปลายภาค เพราะนักเรียนต้องพะวงกับการสอบปลายภาคอยู่แล้ว ที่สำคัญการเลื่อนสอบรับตรงไปช่วงปิดภาคเรียนจะทำให้เด็กได้เรียนอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นแล้วหากเด็กสอบรับตรงได้ก่อนก็จะทิ้งการเรียนในห้องเรียนไป ซึ่งความจริงแล้ว ศธ.ต้องการให้เด็กไทยได้เรียนรู้ทุกอย่าง ไม่ใช่ไปสนใจแต่กวดวิชาเพื่อรู้เทคนิคตอบคำถามสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เท่านั้น" รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตามไม่ว่า ศธ.จะปรับเปลี่ยนระบบคัดเลือกมหาวิทยาลัยเป็นอย่างไร แต่ก็ขอให้เด็กที่เตรียมตัวสอบไปแล้วทุกคนสบายใจได้ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะ ศธ.จะมีการประกาศล่วงหน้าในระยะเวลาพอสมควรก่อนจะนำระบบใหม่มาใช้ อีกทั้งเราก็ต้องรักษาความยุติธรรมให้กับทุกคน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามต้องให้เวลากับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย

 

             นักเรียนชั้น ม.6 กล่าวว่า เห็นด้วยกับการให้เลื่อนสอบรับตรงไปอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน แต่หากเป็นไปได้ส่วนตัวอยากให้การสอบรับตรงจัดขึ้นหลังการสอบแอดมิสชั่นส์ ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยจะจัดสอบรับตรง และจะกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์สอบไว้สูงมากในหลายคณะ เพราะถือว่าเป็นการคัดเลือกรอบแรกมหาวิทยาลัยจึงกำหนดเกณฑ์ไว้สูง เพื่อคัดคนเก่ง จึงส่งผลให้เด็กส่วนใหญ่หมดสิทธิการสอบรับตรงในหลายคณะ แต่ถ้าเปลี่ยนให้จัดสอบแอดมิสชั่นส์ก่อนก็จะทำให้เด็กส่วนใหญ่ รวมทั้งเด็กเก่งมีที่เรียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็จะเหลือเด็กบางกลุ่มที่วิ่งไปสอบรับตรง เพราะฉะนั้นอาจจะทำให้มหาวิทยาลัยยอมลดเกณฑ์คุณสมบัติลงมาไม่ให้โหดเกินไป ซึ่งตรงนี้จะสร้างความเป็นธรรมให้กับเด็กทุกคน

 

 

เครดิต  นสพ.คมชัดลึก