ไทย​ English   การแสดงผล
C
C
C

ข้อมูลข่าวสาร

ทปอ.ห้ามผู้ทรงคุณวุฒิมีญาติสอบแอดมิชชัน ออกข้อสอบเข้ามหา'ลัย

28 เม.ย. 2558 09:26 น.

ผู้อ่าน

ภาพ ทปอ.ห้ามผู้ทรงคุณวุฒิมีญาติสอบแอดมิชชัน ออกข้อสอบเข้ามหา'ลัย

        มติ ทปอ. ไม่ให้ผู้ทรงคุณวุฒิมหา’ลัย ต่างๆ ที่มีญาติแอดมิชชัน เข้าร่วมออกข้อสอบเข้ามหา’ลัย หวั่นเกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ เตรียมประมวลรายชื่อผู้ทรงทำเป็นทำเนียบให้ สทศ. พร้อมประสาน สทศ. เพิ่มสนามสอบรองรับเด็กสอบ 9 วิชาสามัญปีการศึกษา 59
       
       วันนี้ (27 เม.ย.) ศ.ดร.นายประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ทปอ. เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือกรณีการออกข้อสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT การสอบความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ หรือ PAT และการออกข้อสอบ 9 วิชาสามัญ เพื่อให้มหาวิทยาลัยนำคะแนนไปใช้ในการรับตรงผ่านระบบรับตรงของมหาวิทยาลัย และรับตรงผ่านระบบเคลียริงเฮาส์ของ สอท. รวมถึงนำคะแนนไปใช้ในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบ กลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชัน ซึ่งจัดสอบและออกข้อสอบโดยสถาบันการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และที่ผ่านมา สทศ. จะคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมออกข้อสอบด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าหากผู้ทรงคุณวุฒิคนใดมีลูกหลาน หรือญาติที่จะเข้าสอบในปีการศึกษานั้นๆ ก็อาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับลูกหลานที่ใกล้ชิด ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ และไม่เป็นธรรมในการจัดสอบได้
       
       “เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดกรณี ดังกล่าวขึ้น ทปอ. จะประมวลรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งทำหน้าที่ออกข้อสอบจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จัดทำเป็นทำเนียบรายชื่อผู้ออกข้อสอบส่งให้ สทศ. และได้กำชับผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดไปแล้วว่า ต่อไปหากมีลูกหลานหรือญาติพี่น้องที่ต้องเข้าสอบในรายวิชาดังกล่าว เพื่อนำคะแนนไปใช้ในการแอดมิชชัน ก็ขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิคนนั้นสละสิทธิ์ในการร่วมออกข้อสอบ เพื่อความโปร่งใสเป็นธรรม และไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ”ประธาน ทปอ. กล่าว
       
       ศ.ดร.ประสาท กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในการสอบ 9 วิชาสามัญ ซึ่งต้องนำคะแนนไปใช้ในการรับตรงผ่านระบบเคลียริงเฮาส์ ในปีการศึกษา 2559 นี้ ทปอ. จะประสานไปยัง สทศ. เพื่อขอให้จัดสนามสอบเพิ่มเติม เพื่อรองรับจำนวนเด็กที่คาดว่าจะมาสอบมากขึ้น จาก 1.7 แสนคน เป็น 2.5 แสนคน ซึ่งการเพิ่มจำนวนสนามสอบครั้งนี้จะทำให้เด็กไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ ศูนย์สอบเพียงแห่งเดียว แต่สามารถเลือกสอบได้ในสนามสอบใกล้บ้าน ทำให้เด็กไม่ต้องเดินทางไกล และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง